top of page

มหากาพย์วีซ่าเรียนต่อ UK มีแบบไหนบ้าง ต้องเตรียมตัวยังไง บทความนี้มีคำตอบ!

อัปเดตเมื่อ 14 มี.ค.



UK Student Visa


เรื่องวีซ่าเรียนต่อใน UK น่าจะทำให้น้อง ๆ หลายคนกังวลกับการเตรียมตัวอยู่ไม่น้อย เพราะการทำวีซ่าถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากกกกก ทั้งการต้องเตรียมเอกสารและวางแผนให้ได้วีซ่าทันเวลา แถมวีซ่าแต่ละประเภท ก็มีรายละเอียดเยอะมาก ไหนจะเงื่อนไขพิเศษและข้อยกเว้นเพิ่มเติมอีกเต็มไปหมด


ในบทความนี้ พี่ ๆ BACCOM เลยขนเอาข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่จะต้องรู้ พร้อม Tips พิเศษในการสมัครวีซ่ามาให้ แบบไม่ต้องไปหาเพิ่มให้วุ่นวาย ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!



ประเภทวีซ่าสำหรับเรียนต่อใน UK


ประเภทของการทำวีซ่า จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของคอร์สเรียนที่น้องสมัครไว้ หรือตามระยะเวลาของคอร์สที่น้องได้รับ offer จากมหาวิทยาลัย ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ

  1. Standard Visitor Visa

  2. Short-Term Study Visa

  3. Student Visa

  4. Child Student Visa

 

รายละเอียดประเภทวีซ่าสำหรับเรียนต่อใน UK 🇬🇧


1. Standard Visitor Visa หรือ วีซ่าท่องเที่ยวใน UK


หลายคนอาจจะเข้าใจว่า วีซ่าท่องเที่ยวมีไว้เพื่อมาเที่ยวหรือมา Business Trip เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว วีซ่าชนิดนี้ถูกใช้เป็นประเภทวีซ่าสำหรับนักเรียนที่สมัครเรียนระยะสั้นด้วย เพราะฉะนั้น ระวังสับสนหรือเข้าใจผิดเพราะชื่อวีซ่านะคะ :D


เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้

  • สมัครเรียนในคอร์สที่มีระยะเวลาเรียนไม่เกิน 6 เดือน

  • จะต้องสมัครเรียนกับสถาบันที่ทางการของ UK รับรอง (Accredited Institution) เท่านั้น เพื่อการันตีว่าตัวสถาบันและหลักสูตรมีคุณภาพและมาตรฐาน โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองได้ที่ Accreddited UK Institutions


ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่ถือ Standard Visitor Visa

  • กรณี่ที่ต้องการลงเรียนคอร์สสันทนาการต่าง ๆ เช่น คอร์สสอนเต้น จะต้องเป็นคอร์สที่มีระยะเวลาเรียนไม่เกิน 30 วันเท่านั้น

  • ถ้าสนใจทำกิจกรรมอาสา น้อง ๆ สามารถเข้าร่วมกับหน่วยงานการกุศลที่ได้รับการจดทะเบียนได้ ซึ่งจะต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่เกิน 30 วันเช่นกัน

  • ไม่สามารถทำงานกับบริษัทหรือรับว่าจ้างงานได้ ไม่ว่าจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม

  • ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds) ซึ่งเป็นเงินที่ทางรัฐบาล UK ช่วยสนับสนุนพลเมือง เช่น เงินช่วยคนที่มีรายได้น้อย หรือเงินช่วยเรื่องที่พักอาศัย

  • ไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้


เอกสารที่ใช้ในการสมัคร

  1. พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)

  2. สำเนาบัตรประชาชน

  3. สำเนาทะเบียนบ้าน

  4. หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน

  5. รายละเอียดที่พักในอังกฤษ (น้อง ๆ สามารถบอกเป็นรายละเอียดวันและเวลาที่จะมาพักได้นะคะ ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าที่พักไปก่อน หรือแนะนำว่าจองที่พักแบบที่สามารถยกเลิกได้ฟรีไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่รู้ว่าวีซ่าเราจะผ่านเมื่อไหร่)

  6. หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา


ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า

  • Standard Visitor Visa อายุ 6 เดือน : 100 ปอนด์


รายละเอียดการสมัคร


น้อง ๆ สามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนเดินทาง และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว


 

2. Short-Term Study Visa หรือวีซ่านักเรียนระยะสั้น


วีซ่าประเภทนี้ เป็นวีซ่าเพื่อการอบรมระยะสั้น ทำวิจัย การสมัครคอร์สเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น หรือใช้สำหรับหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่กำหนดให้นักศึกษามาลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษใน UK ก่อนการเริ่มเรียนจริงเพื่อเป็นการปรับพื้นฐาน



เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้

  • ระยะเวลาของคอร์สเรียนหรือการทำวิจัยจะต้องอยู่ระหว่าง 6 -11 เดือน

  • สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองได้ที่ Accreddited UK Institutions


ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Short-Term Study Visa

  • น้อง ๆ สามารถอยู่ในอังกฤษต่อได้อีก 30 วัน หลังจากคอร์สเรียนภาษาสิ้นสุดลง แต่จะต้องรวมระยะเวลาที่อาศัยในอังกฤษทั้งหมดแล้วไม่เกิน 11 เดือน

  • คอร์สที่เรียนจะต้องเป็นคอร์สภาษาอังกฤษที่ลงไว้เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนไปเรียนคอร์สอื่นหรือเปลี่ยนโรงเรียนได้

  • ไม่สามาถทำงานกับบริษัทหรือรับว่าจ้างงานได้ ไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม รวมถึงห้ามทำธุรกิจด้วย

  • ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds)

  • ไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้


เอกสารที่ใช้ในการสมัคร

  1. พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)

  2. ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM

  3. หลักฐานรับรองจากสถานศึกษาในอังกฤษ เช่น Letter of Acceptance ที่ระบุชื่อคอร์ส ระยะเวลาเรียน และค่าใช้จ่าย

  4. สำเนาบัตรประชาชน

  5. สำเนาทะเบียนบ้าน

  6. หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงหลักฐานที่แสดงว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดการอยู่ในอังกฤษได้

  7. รายละเอียดที่พักในอังกฤษ (น้อง ๆ สามารถบอกเป็นรายละเอียดวันและเวลาที่จะมาพักได้นะคะ ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าที่พักไปก่อน หรือแนะนำว่าจองที่พักแบบที่สามารถยกเลิกได้ฟรีไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่รู้ว่าวีซ่าเราจะผ่านเมื่อไหร่)


เอกสารเพิ่มเติม ในกรณีพิเศษ

  • กรณีที่มีคนสนับสนุนทางการเงิน

หากน้อง ๆ ได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง จะต้องใช้เอกสาร 3 อย่าง คือ

  1. หนังสือยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองทางกฎหมาย (Letter of Consent)

  2. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนรับลูกบุญธรรม หรือเอกสารรับรองสิทธิในการเลี้ยงดูจากศาล (ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ใช่พ่อแม่)

  3. เอกสารทางการเงินของพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย

  • กรณีสำหรับน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปี

ถ้าน้อง ๆ เดินทางไปคนเดียว จะต้องเตรียมเอกสารแสดงความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ที่ระบุความยินยอม 3 อย่าง คือ

  1. การสมัครวีซ่า

  2. การอยู่อาศัยใน UK เช่น ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัวของคนที่จะดูแลน้อง ๆ ตอนอยู่ที่ UK พร้อมระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องกับผู้ดูแล

  3. การเดินทางไป UK

ส่วนน้อง ๆ ที่มีคนเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย จะต้องระบุชื่อของผู้ร่วมเดินทางในขั้นตอนการสมัครวีซ่าด้วยนะคะ โดยจะมีผู้ร่วมเดินทางไปได้ไม่เกิน 2 คนค่า



ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า

  • Short-Term Study Visa : 200 ปอนด์

  • ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์

เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ


รายละเอียดการสมัคร


สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนออกเดินทางมาอังกฤษ และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว


 

3. Student Visa หรือวีซ่านักเรียน


มาถึงวีซ่าฮอตฮิตสำหรับเด็กไทยหลาย ๆ คนที่สนใจไปเรียนต่อที่อังกฤษ อย่างวีซ่านักเรียน (Student Visa) หรือที่รู้จักในชื่อเดิมคือ Tier 4 (General) Student Visa กันบ้าง วีซ่าประเภทนี้จะมีรายละเอียดพิเศษเยอะกว่าวีซ่าอื่น ๆ อยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้น้อง ๆ อย่าเพิ่งท้อ สูดหายใจ แล้วไปอ่านกันต่อค่ะ!


เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้

  • ระยะเวลาของคอร์สเรียนมากกว่า 11 เดือนขึ้นไป (ส่วนมากนักเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกจะไป UK ด้วยวีซ่าประเภทนี้)

  • สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองจากลิงก์นี้เลยยย Accreddited UK Institutions


ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Student Visa

  • น้อง ๆ สามารถทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในสหพันธ์นักศึกษา (Student Union Sabbatical Officer) ได้

  • ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public funds)

  • สามารถทำงาน part-time เพื่อหารายได้เสริมได้ แต่จะต้องไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในระหว่างเปิดเทอม และไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงปิดเทอมเท่านั้น

  • ไม่สามารถทำงานประจำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น น้อง ๆ จะรู้ละเอียดชัดเจนขึ้นว่าเราทำอะไรได้และไม่ได้บ้างหลังจากได้วีซ่าเรียบร้อยแล้วค่ะ


เอกสารที่ใช้ในการสมัคร

  1. พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)

  2. ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM

  3. จดหมายตอบรับเข้าเรียนจากสถานศึกษาหรือ Confirmation of Acceptance for Studies (CAS)

  4. สำเนาบัตรประชาชน

  5. สำเนาทะเบียนบ้าน

  6. ใบรับรองผลการศึกษา (Transcript)

  7. ผลคะแนนการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ โดยสามารถศึกษารายละเอียดว่าสอบอันไหนได้บ้างจาก การทดสอบภาษาอังกฤษที่ UK ยอมรับ และ เกณฑ์ระดับภาษาอังกฤษ

  8. ใบรับรอง ATAS (Academic Technology Approval Scheme) หากสาขาที่เรียนต้องใช้

  9. เอกสารยินยอมจากผู้สนับสนุนทางการเงิน


เอกสารทางการเงินและจำนวนเงินที่ต้องมีในบัญชี


ถึงแม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารยืนยันสถานภาพทางการเงินในขั้นตอนการขอวีซ่าแล้ว แต่เราก็ควรจะมีไว้ในกรณีที่ถูกขอตรวจระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่า จะได้ไม่เป็นปัญหาทีหลัง โดยเอกสารทางการเงินควรแสดงย้อนหลังอย่างน้อย 1 เดือนก่อนไปขอวีซ่าค่า


นอกจากเงินที่ต้องเตรียมไว้สำหรับค่าคอร์สเรียน 1 ปีการศึกษา หรือคิดเป็น 9 เดือนแล้ว ทาง เว็บไซต์รัฐบาล UK ได้คำนวณค่าครองชีพไว้คร่าว ๆ โดยแยกเป็น

  • เรียนอยู่ในลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,334 ปอนด์/เดือน

  • เรียนอยู่นอกลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,023 ปอนด์/เดือน

เพราะฉะนั้น เมื่อรวมค่าคอร์สเรียนกับค่าครองชีพ 9 เดือน น้อง ๆ ก็จะได้จำนวนเงินที่ควรมีไว้ในบัญชีของตัวเองแล้ว หรือถ้าในกรณีที่มีผู้สนับสนุนทางการเงิน น้อง ๆ จะต้องฝากเข้าบัญชีได้แค่ของคุณพ่อหรือคุณแม่ (ตามกฏหมาย) เท่านั้นนะ


เอกสารเพิ่มเติม ในกรณีพิเศษ

  • กรณีที่มีคนสนับสนุนทางการเงิน

หากน้อง ๆ ได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย จะต้องมาจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายเท่านั้น เอกสารที่ใช้มี 3 อย่าง คือ

  1. หนังสือยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองทางกฎหมาย (Letter of Consent)

  2. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนรับลูกบุญธรรม หรือเอกสารรับรองสิทธิในการเลี้ยงดูจากศาล (ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ใช่พ่อแม่)

  3. เอกสารทางการเงินของพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย


  • กรณีสำหรับน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปี

น้อง ๆ จะต้องเตรียมเอกสารแสดงความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายที่ระบุความยินยอม 3 อย่าง คือ

  1. การสมัครวีซ่า

  2. การอยู่อาศัยใน UK เช่น ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัวของคนที่จะดูแลน้อง ๆ ตอนอยู่ที่ UK พร้อมระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องกับผู้ดูแล

  3. การเดินทางไป UK


ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า

  • Student Visa : 363 ปอนด์ (กรณีสมัครวีซ่านอกประเทศอังกฤษ)

  • Student Visa : 490 ปอนด์ (กรณีสมัครหรือขอต่อวีซ่าที่ประเทศอังกฤษ)

  • ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์

เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ


รายละเอียดการสมัคร


สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนออกเดินทางมาอังกฤษ และจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว


 

4. Child Student Visa หรือวีซ่าสำหรับนักเรียนอายุ 4-17 ปี


วีซ่าประเภทนี้ มีชื่อเดิมคือ Tier 4 (Child) Student Visa โดยรวม ๆ จะมีรายละเอียดเหมือนวีซ่านักเรียน (Student Visa) เลย แต่วีซ่านี้จะเป็นวีซ่าสำหรับน้อง ๆ ที่อายุยังอยู่ระหว่าง 4-17 ปี แล้วอยากมาเรียน หรือคุณพ่อคุณแม่สนใจอยากให้มาเรียนต่อตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมในโรงเรียนเอกชนที่ประเทศอังกฤษค่า


เงื่อนไขสำหรับการสมัครวีซ่าประเภทนี้เงื่อนไขในการสมัครเรียน

  • วีซ่าสำหรับน้อง ๆ ที่อายุยังอยู่ระหว่าง 4-17 ปี

  • ระยะเวลาของคอร์สเรียนมากกว่า 11 เดือนขึ้นไป

  • สถาบันที่เรียนจะต้องเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรอง (Accreditted Institution) เท่านั้น โดยน้อง ๆ สามารถเช็คสถาบันที่ได้รับการรับรองจากลิงก์นี้เลยยย Accreddited UK Institutions


ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือ Student Visa

  • น้อง ๆ ที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป สามารถทำงาน Part-time ได้ 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ และทำงานแบบ Full-time ได้ตอนปิดเทอม แต่ไม่สามารถทำงานประจำหรือรับงานจ้างได้

  • สามารถฝึกงานได้ ถ้ามีโปรแกรมฝึกงานอยู่ในหลักสูตรที่เรียน แต่ต้องฝึกไม่เกิน 50% ของเวลาในคอร์สเรียน

  • ไม่สามารถลงเรียนคอร์สอื่นนอกโรงเรียนได้

  • ไม่ได้สิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล (Public Funds)


เอกสารที่ใช้ในการสมัคร

  1. พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือไม่หมดอายุระหว่างที่อยู่ในอังกฤษ และพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)

  2. ผลตรวจปอด (TB test) จาก IOM

  3. จดหมายตอบรับเข้าเรียนจากสถานศึกษาหรือ Confirmation of Acceptance for Studies (CAS)

  4. สำเนาบัตรประชาชน

  5. สำเนาทะเบียนบ้าน

  6. เอกสารยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และเอกสารแสดงความสัมพันธ์

  7. เอกสารยินยอมจากผู้สนับสนุนทางการเงิน


เอกสารทางการเงินและจำนวนเงินที่ต้องมีในบัญชี

รายละเอียดในส่วนนี้ จะคล้ายกับการขอวีซ่านักเรียน (Student Visa) ที่ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารทางการเงินตอนขอวีซ่าแล้ว แต่เตรียมมาไว้เผื่อเวลาถูกขอตรวจก็จะดีกว่าค่ะ โดยเอกสารทางการเงินควรแสดงย้อนหลังอย่างน้อย 1 เดือนก่อนไปขอวีซ่าค่า

นอกจากเงินที่ต้องเตรียมไว้สำหรับค่าคอร์สเรียน 1 ปีการศึกษา หรือคิดเป็น 9 เดือนแล้ว ก็จะมีค่าที่พัก ซึ่งจะมีราคาและเงื่อนไขด้านการเงินแตกต่างไป ขึ้นอยู่กับว่าน้อง ๆ จะเลือกพักที่ไหน เช่น โรงเรียนประจำ อยู่กับผู้ดูแลหรือญาติ เป็นต้น


สำหรับน้อง ๆ ที่อายุ 16-17 ปีที่หาที่พักเอง ทางเว็บไซต์รัฐบาล UKได้คำนวณค่าครองชีพไว้คร่าว ๆ โดยแยกเป็น

  • เรียนอยู่ในลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,334 ปอนด์/เดือน

  • เรียนอยู่นอกลอนดอน จะต้องใช้เงินประมาณ 1,023 ปอนด์/เดือน

เพราะฉะนั้น เมื่อรวมค่าคอร์สเรียนกับค่าครองชีพ 9 เดือน น้อง ๆ ก็จะได้จำนวนเงินที่ควรมีไว้ในบัญชีของตัวเองแล้ว หรือถ้าในกรณีที่มีผู้สนับสนุนทางการเงิน น้อง ๆ จะต้องฝากเข้าบัญชีได้แค่ของคุณพ่อหรือคุณแม่ (ตามกฏหมาย) เท่านั้นนะ


ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า

  • Student Visa : 363 ปอนด์ (กรณีสมัครวีซ่านอกประเทศอังกฤษ)

  • Student Visa : 490 ปอนด์ (กรณีสมัครหรือขอต่อวีซ่าที่ประเทศอังกฤษ)

  • ค่าบริการทางการแพทย์ (Healthcare Surcharge) : 470 ปอนด์

เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บล่วงหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ของอังกฤษ (National Health Service) ได้ ซึ่งต้องจ่ายพร้อมกันตอนสมัครวีซ่าออนไลน์ และต้องชำระด้วยบัตรเครดิตหลังกรอกรายละเอียดและอัปโหลดไฟล์เอกสาร์ในลิงก์สมัครวีซ่าเท่านั้นนะคะ

ส่วนราคาค่าบริการอาจจะปรับเปลี่ยนไปตามระยะเวลาของคอร์สเรียน น้อง ๆ สามารถเช็คราคาอัปเดตอีกทีจาก คำนวณค่า Healthcare Surcharge ได้เลยค่า


รายละเอียดการสมัคร


สามารถยื่นขอวีซ่าได้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนคอร์สจะเริ่ม และใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประมาณ 3 สัปดาห์ หลังยื่นขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว


 

BACCOM TIPS - เกร็ดความรู้เพิ่มเติม


1. น้อง ๆ ที่ถือ Short-Term Student Visa, Student Visa และ Child Student Visa จะได้สิทธิ์ถือบัตร BRP


บัตร BRP (Biometric Residence Permits) เป็นบัตรสำหรับคนที่จะย้ายมาอยู่ใน UK นานกว่า 6 เดือนขึ้นไป คล้ายกับบัตรประชาชนซึ่งจะต้องมีพกติดตัวไว้ตลอดเวลาที่อยู่ใน UK เพื่อแสดงสถานะ Citizenship ชั่วคราว และเป็นบัตรยืนยันว่าน้อง ๆ มีสิทธิเทียบเท่ากับ UK Citizen ระหว่างการอยู่อาศัยตลอดระยะเวลาของวีซ่า โดยการยื่นขอบัตร BRP ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้า UK อยู่แล้ว โดยทางศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่า (VFS) จะทำการเก็บข้อมูลลายนิ้วมือและรูปถ่ายของผู้สมัคร (Biometric) ไว้ก่อนล่วงหน้าในวันที่ไปทำเรื่องขอวีซ่า แล้วค่อยไปติดต่อรับบัตรหลังจากเดินทางถึง UK ส่วนคนที่มาเรียนภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนอย่างน้อง ๆ ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยว (Standard Visitor Visa) ก็จะไม่ได้รับบัตร BRP นี้ค่า



2. อยากต่อวีซ่านักเรียน ทำได้มั้ย ?


นักเรียนที่สามารถต่อวีซ่าได้ จะเป็นน้อง ๆ ที่ถือวีซ่านักเรียน Student Visa หรือ Tier 4 (General) Student Visa อยู่ และน้อง ๆ ที่ถือ Child Student Visa หรือ Tier 4 (Child) Student Visa แต่การจะต่อวีซ่าได้นั้น จะต้องเป็นการต่อวีซ่าเพื่อสมัครเรียนต่อในคอร์สที่มี Academic Level สูงกว่าคอร์สเดิม โดยจะต้องใช้ CAS และเอกสารยืนยันว่าคอร์สที่จะเรียนมีระดับสูงกว่าคอร์สเดิมค่ะ


น้อง ๆ สามารถยื่นขอต่อวีซ่าทางออนไลน์ตอนที่อยู่ UK และจ่ายค่าธรรมเนียม 490 ปอนด์รวมกับค่าบริการทางการแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งจะต้องทำเรื่องขอต่อวีซ่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนก่อนเรื่มคอร์สใหม่ จากนั้นก็ทำ Biometric Information ได้ที่ศูนย์บริการ UK Visa and Citizenship Application Services (UKVCAS) หรือจะใช้แอปพลิเคชั่น UK Immigration: ID Check ก็ได้เลยยย



3. จะทำงานต่อหลังเรียนจบ ต้องถือวีซ่าไหน ?


น้อง ๆ นักเรียนปริญญาตรี โท หรือเอก ที่ถือ Student Visa สามารถหางานทำได้ตั้งแต่ช่วงที่เรียนตามข้อกำหนดของวีซ่านี้เลย และสามารถให้หัวหน้างานทำเรื่องให้ Sponsorship Visa ในการทำงานต่อได้ ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่มีงานรับรอง แต่อยากมีโอกาสได้อยู่ที่ UK เพื่อหางานทำต่อ ตอนนี้ทางรัฐบาลอังกฤษได้มีประเภทวีซ่าแบบใหม่เพิ่มพิเศษขึ้นมา อย่าง Graduate Visa หรือ Post-Study Visa เพื่อให้โอกาสน้อง ๆ นักเรียน (Student Visa) ที่เรียนจบตั้งแต่ระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้นสามารถถือวีซ่าประเภทนี้เพื่ออาศัยอยู่ต่อ และลองหางานทำใน UK อีกอย่างน้อย 2 ปีโดยที่ยังไม่ต้องมีงานรองรับชัดเจน :D สำหรับใครที่สนใจวีซ่าตัวใหม่นี้เพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่นี่เลย Post-Study WORK VISA สำหรับนักศึกษาต่างชาติในสหราชอาณาจักร



4. ขอเอกสารภาษาอังกฤษได้ที่ไหน ?


สำหรับเอกสารพวกสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับภาษาอังกฤษ น้อง ๆ สามารถติดต่อขอได้ที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอตามที่อยู่ของน้อง ๆ ได้เลยค่า ดูวิธีการขอและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารการทะเบียนภาษาอังกฤษ - กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ


ส่วนเอกสารทางการเงินก็สามารถขอที่ธนาคาร หรือ Internet Banking ได้ โดยธนาคารแต่ละที่อาจจะมีเงื่อนไขการขอเอกสารแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นน้อง ๆ ลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละธนาคารที่ใช้บริการอยู่นะคะ จะได้เตรียมเอกสารได้อย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ยังมีเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ได้อยู่ในลิสต์เอกสารการทะเบียนที่กรมการกงสุลให้บริการ และไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเงิน เช่น เอกสารยินยอมให้เดินทางจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง สำหรับทำเรื่องขอวีซ่า Child Student Visa และเอกสารอื่น ๆ เป็นต้น สำหรับใครที่มีบริษัทรับแปลเอกสารสำหรับทำวีซ่าอยู่แล้ว ก็สามารถติดต่อให้ช่วยแปลได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ยังไม่มีที่ที่ไว้ใจได้ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ น้อง ๆ สามารถติดต่อพี่ ๆ BACCOM มาได้เลย เพราะเรามีบริการรับแปลเอกสารด้วยค่าาา :D



5. ขั้นตอนการสมัครขอวีซ่า UK


การยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้า UK ทุกประเภทจะต้องทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ คือ

  1. กรอกข้อมูลและอัปโหลดไฟล์เอกสาร ได้ที่สมัครวีซ่า

  2. เมื่อน้อง ๆ กรอกข้อมูลในเว็บไซต์ใกล้เสร็จแล้ว น้อง ๆ จะต้องเลือกศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (Visa Application Center) พร้อมทั้งวันและเวลาที่สะดวก ในการไปติดต่อทำเรื่องขอวีซ่าด้วยค่ะ

  3. เมื่อสมัครออนไลน์เรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ จะต้องปริ้นเอกสาร 3 อย่าง คือ

    • Appointment Confirmation คือ เอกสารที่บอกสถานที่ วัน และเวลาที่เราเลือกไปขอวีซ่า

    • Document Checklist คือ รายการเอกสารที่ต้องใช้ เวลาไปยื่นที่ศูนย์ฯ เจ้าหน้าที่จะเช็คว่าเรามีเอกสารครบมั้ย

    • หลักฐานการจ่ายเงิน

  4. จากนั้นนำเอกสาร 3 อย่างด้านบน พร้อมกับพาสปอร์ตตัวจริงและฉบับสำเนาไปยื่นตามสถานที่และวันเวลาที่เราจองไว้ เพื่อถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือ (Biometric Information)

  5. หลังจากทำ Biometric Information แล้ว จะมีสัมภาษณ์สำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่า 2 ประเภท คือ

    • Student visa

    • Child Student visa (เฉพาะน้อง ๆ ที่อายุ 16-17 ปี)


6. ยื่นขอวีซ่า UK ได้ที่ไหนบ้าง ?


ในประเทศไทยจะมี VFS (Visa Facilitation Services Global) ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่สถานทูตอนุญาตให้บริการเรื่องการขอวีซ่าอยู่หลายที่ แต่ส่วนมากคนที่ขอวีซ่า UK จะยื่นที่ VFS ตึกเทรนดี้ สุขุมวิทกันค่ะ หรือถ้าหากน้อง ๆ ไม่สะดวกสมัครที่ VFS สาขาสุขุมวิท ก็สามารถหาที่ที่สะดวกตามลิงก์นี้ได้เลยนะคะ ศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่า

 

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับข้อมูลประเภทวีซ่า เงื่อนไขและการสมัครแบบละเอียดยิบบบ ที่พี่ ๆ BACCOM สรุปมาให้ ชนิดที่อ่านจนจุกกันไปข้างงง :DD พี่ ๆ หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องวีซ่าเรียนต่ออยู่นะคะ


ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกไม่ไหวกับการเตรียมเอกสารและขั้นตอนการสมัครที่เยอะแยะไปหมด ทาง BACCOM เราก็มีบริการดูแลเรื่องการทำวีซ่าด้วยนะคะ น้อง ๆ สามารถติดต่อมาให้ทางพี่ ๆ ช่วยจัดการและให้คำแนะนำได้เลยค่ะ หรือถ้ามีข้อสงสัยตรงไหนอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถทักมาหาพี่ ๆ BACCOM ได้เลยค่าาา



🏡 เรื่องที่พักในอังกฤษให้ BACCOM ดูแล 🇬🇧 ครบทุกบริการที่ต้องการ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💕


💚 LINE ID : @baccomuk

💙 Facebook : BACCOM UK

❤️ Youtube: BACCOM UK

📩 Email: hello@baccom.co.uk

☎️ UK Call : +44 7400 902 392

☎️ TH Call : +66 62 656 9422


🔗 ดูบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่

Website : www.baccom.co.uk

bottom of page