top of page

รู้ไว้ยังไงก็รอด! 7 วิธีการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในอังกฤษ

อัปเดตเมื่อ 14 มี.ค.



น้อง ๆ คนไหนมีแพลนว่าจะมาเที่ยวหรือย้ายมาอยู่ที่อังกฤษบ้าง ยกมือขึ้น!! ต้องเกริ่นก่อนว่าการเดินทางในอังกฤษเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากกกกกก เพราะการคมนาคมของที่นี่เข้าถึงทุกที่ในประเทศเลยค่ะ ไม่ว่าน้อง ๆ จะได้ที่พักในเขตไหนก็สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายสุด ๆ


วันนี้พี่ ๆ BACCOM ก็เลยจะมาแนะนำขนส่งสาธารณะที่คนอังกฤษนิยมใช้กัน 7 รูปแบบ รวมถึงวิธีการซื้อตั๋วของขนส่งรูปแบบต่าง ๆ จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาเริ่มกันเลยค่าาา



1. Underground / Tube (รถไฟใต้ดิน)


ขอบคุณรูปภาพจาก britannica


Tube หรือ รถไฟใต้ดินของอังกฤษ ถือว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นขนส่งสาธารณะที่คน London นิยมมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เพราะมีด้วยกันทั้งหมด 11 สายและมีสถานีมากกว่า 270 สถานีทั่ว London ทำให้น้อง ๆ สามารถเดินทางไปยังย่านต่าง ๆ ได้ง่ายมาก แถมบางสายให้บริการ 24 ชั่วโมงเลย! เหตุผลอีกข้อที่ทำให้คนนิยมก็คือ Tube มีความรวดเร็วมาก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เช่น เราสามารถนั่ง Tube จาก West London ไป East London ได้เร็วมาก ๆ แค่ 30-45 นาทีเท่านั้น! ถ้าน้อง ๆ คนไหนชอบความรวดเร็วและความสะดวกสบาย Tube ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่า


วิธีการซื้อตั๋ว

  • น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋ว Tube ได้ที่เครื่องขายตั๋วหน้าสถานี สามารถใช้ได้ทั้งเงินสด บัตรเดบิตและบัตรเครดิต

  • พี่ ๆ แนะนำว่าถ้าน้อง ๆ ต้องเดินทางด้วย Tube เป็นประจำแนะนำให้สมัครบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card แล้วจ่ายเงินผ่าน card เหล่านี้จะสะดวกที่สุดค่ะ

  • สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ


BACCOM TIPS


ราคาของตั๋วรถไฟใต้ดินจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่เดินทาง และเวลาที่เลือกเดินทางด้วยนะคะ ที่อังกฤษจะมีชั่วโมงเร่งด่วนหรือที่เรียกกันว่า Peak time ซึ่งถ้าน้อง ๆ ซื้อตั๋วรถไฟในช่วง Peak time ก็จะมีราคาแพงกว่าช่วงเวลาอื่นด้วย! ดังนั้นหากน้อง ๆ วางแผนเวลาเดินทางดี ๆ ก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าเดินไปได้เยอะเลยค่า


* เกร็ดความรู้ *


Q: พี่ ๆ คะ หนูเคยได้ยินบางคนก็เรียกรถไฟใต้ดินว่า Tube บางคนก็เรียกว่า Underground แล้วมันต่างกันยังไงหรอคะ?


A: เหมือนกันเลยค่ะ London Underground คือชื่อที่เป็นทางการ ส่วนคนอังกฤษหรือชาว London มักนิยมเรียกเจ้ารถไฟใต้ดินนี้ด้วยชื่อเล่นว่า Tube ค่ะ เพราะรถไฟใต้ดินมีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินเหมือนท่อยาว ๆ นั่นเอง



2. Tram (รถราง)


ขอบคุณรูปภาพจาก tautonline


จริง ๆ ประเทศไทยเองก็มีรถรางให้บริการนะคะ แต่พี่เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับขนส่งชนิดนี้เท่าไหร่ เพราะ Tram ในประเทศไทยเปิดให้บริการครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งน้อง ๆ หลายคนอาจจะเกิดไม่ทัน ;p (พี่ ๆ เองก็เกิดไม่ทันค่ะ ฮ่า ๆ ) แต่ว่า Tram ที่อังกฤษยังเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบันและก็เป็นที่นิยมกันด้วยนะคะ วันนี้พี่ ๆ BACCOM ก็เลยจะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้ายานพาหนะชนิดนี้กัน!


Tram หรือ รถราง เป็นรถที่วิ่งอยู่บนรางคล้ายกับรถไฟแต่จะมีขนาดที่สั้นและน้ำหนักเบากว่า ถึงแม้ว่า Tube หรือรถไฟใต้ดินในอังกฤษจะสะดวกสบายและรวดเร็วมาก แต่ถ้าใครมองหาการเดินทางที่ประหยัดกว่าก็ต้อง Tram เลยค่า ซึ่ง Tram จะมีอยู่เพียงไม่กี่เมืองในประเทศอังกฤษเท่านั้น ได้แก่ London, Manchester, Nottingham, Sheffield, Newcastle-Sunderland, Blackpool, Edinburgh และ Birmingham–Wolverhampton ค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าน้อง ๆ มีโอกาสไปเมืองเหล่านี้ก็ลองนั่ง Tram สักครั้งก่อนกลับไทยกันนะคะ :DD


วิธีการซื้อตั๋ว

  • น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่

✔️ เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติที่หน้าสถานีซึ่งรับทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต และเงินสด (ยกเว้นใน London ไม่รับเงินสดนะคะ)


✔️ ช่องทางออนไลน์สำหรับซื้อตั๋วล่วงหน้า

  • สำหรับน้อง ๆ ที่อยู่ London ต้องพกบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ไว้สำหรับซื้อตั๋วด้วยนะคะ :DD

  • สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ



3. Rail/Train (รถไฟ)


ขอบคุณรูปภาพจาก 123rf


ถ้าพูดถึงขนส่งสาธารณะที่มีสถานีครอบคลุมทั่วเกาะอังกฤษ จะขาด Rail ไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะ Rail เป็นเครือข่ายรถไฟที่ใหญ่มากกก! สามารถเชื่อมเมืองต่าง ๆ ในเกาะให้ถึงกันได้ โดยน้อง ๆ สามารถนั่ง Rail เพื่อเดินทางในเมืองหรือข้ามเมืองก็ได้ค่ะ แถมยังรวดเร็วมากกกกกอีกด้วย ขนาดที่ว่าสามารถเดินทางจาก London ไปยัง Edinburgh เมืองหลวงของ Scotland ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น! ลองเทียบกับที่ไทยง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ กับการที่น้อง ๆ สามารถนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ได้ภายในแค่ไม่ถึง 4 ชั่วโมงค่ะ ;D นอกจากจะรวดเร็วแล้ว Rail ยังนั่งสบายสุด ๆ เพราะมีพื้นที่ให้ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย หาของกิน เข้าห้องน้ำ หรือนั่งทำงานได้ด้วย ไม่ใช่แค่นี้นะคะ Rail ยังถือเป็นขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและตรงเวลามากด้วยน้า สามารถวางแผนท่องเที่ยวได้สบายเลย


วิธีการซื้อตั๋ว

  • น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วเดินทางได้ที่

✔️ หน้าสถานีรถไฟ ผ่านเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติและห้องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งรับทั้งเงินสด (ยกเว้นบางสถานีใน London) บัตรเดบิต และบัตรเครดิตได้เลยค่ะ


✔️ ทางออนไลน์จากทุกบริษัทผ่านเว็บไซต์ national rail และ the train line

  • ถ้าน้อง ๆ เดินทางใน London ด้วย Rail บ่อย ๆ แนะนำว่าควรพกบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ด้วยนะคะ เพราะบางสถานีใน London ไม่รับเงินสดค่ะ

  • สำหรับน้อง ๆ ที่เดินทางบ่อยและอยากเดินทางด้วย Rail ในราคาถูก แนะนำให้ซื้อบัตร Railcard ไว้นะคะ จะช่วยประหยัดค่าเดินได้มาก ๆ เลยค่ะ


“แผนที่เส้นทางวิ่งของรถไฟสายต่าง ๆ ในอังกฤษ”

ขอบคุณรูปภาพจาก thetrainline



4. Docklands Light Railway (DLR)


ขอบคุณรูปภาพจาก city-guide.london


Docklands Light Railway หรือที่คนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า DLR เป็นรถไฟไร้คนขับที่ให้บริการเฉพาะในพื้นที่ East และ South-East London เท่านั้นค่ะ ถ้ามองเผิน ๆ DLR จะมีความคล้ายกับ Tube มาก แถมยังมีสถานีที่เชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนสายไปขึ้น Tube ได้อีกด้วย แต่ DLR จะแตกต่างจาก Tube เล็กน้อยค่ะ ตรงที่ DLR จะมีสถานีที่ให้บริการน้อยกว่า แต่ว่ามีรถที่ใหม่กว่า สถานีที่ใหญ่กว่า และทันสมัยกว่า Tube ค่าาา

วิธีการซื้อตั๋ว

  • เหมือนกับการซื้อตั๋ว Tube เลยค่ะ คือ น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วรถไฟ DLR ที่เครื่องขายตั๋วหน้าสถานีซึ่งรับทั้งเงินสด บัตรเดบิต และบัตรเครดิต

  • ถ้าน้อง ๆ ต้องเดินทางด้วย DLR เป็นประจำแนะนำให้น้อง ๆ สมัครบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ด้วยจะสะดวกที่สุดค่ะ

  • สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ



5. Bus (รถโดยสายประจำทาง)


ขอบคุณรูปภาพจาก londonblog.tfl.gov.uk


เมื่อพูดถึงขนส่งสาธารณะแล้วแน่นอนว่าจะขาด Bus หรือรถโดยสารประจำทางไปไม่ได้เลย Bus ที่นี่มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับรถเมล์บ้านเรา แต่จะมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของที่อังกฤษเลย คือ รถสีแดงอันโดดเด่นและมีสองชั้น!! ทุกคนสามารถนั่งรถเพลิน ๆ พร้อมได้ชมวิวเมืองไปด้วยยย และแถม Bus ที่นี่ยังมีพื้นที่สำหรับรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นพิเศษด้วยนะคะ ถ้ามีผู้โดยสารที่ใช้รถเข็นต้องการขึ้น Bus คนขับก็จะเปิดระบบต่อพื้นให้เข็นรถขึ้น Bus ได้อย่างสะดวกเลยค่ะ ดีงามสุด ๆ


การเดินทางด้วย Bus ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ประหยัดมากกกก เพราะที่นี่เขามีนโยบาย Hopper fare ให้น้อง ๆ สามารถเปลี่ยนสาย Bus กี่ครั้งก็ได้ใน 1 ชั่วโมงแต่จ่ายแค่ 1.75 ปอนด์ด้วยน้า ถ้าวางแผนการเดินทางดี ๆ จะช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมาก ๆ เลยค่า


วิธีการซื้อตั๋ว

  • น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรซึ่งจะตั้งอยู่ที่ สถานี Tube, DLR, London Overground, Elizabeth line และ National Rail

  • เนื่องจาก Bus ที่นี่ไม่รับเงินสด ดังนั้นน้อง ๆ ควรพกบัตร Oyster card หรือบัตร Contactless card ด้วยนะคะ

  • สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ



6. Coach (รถโคช)


ขอบคุณรูปภาพจาก pelicanyutong


Coach เป็นรถประจำทางที่เดินทางในระยะทางไกลกว่า Bus ซึ่งถ้าจะให้เปรียบ Coach เป็นขนส่งในบ้านเรา ก็จะเปรียบได้กับรถทัวร์ค่า Coach ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการเดินทางข้ามเมืองนอกเหนือจาก Rail เลยค่ะ ข้อดีของ Coach เมื่อเทียบกับ Rail ก็คือ มีราคาที่ถูกกว่า มีจุดหมายปลายทางที่เยอะกว่าและครอบคลุมกว่า แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อย คือ ถ้าน้อง ๆ เดินทางไกล ๆ อาจจะนั่งไม่ค่อยสบายเท่ากับ Rail เท่าไหร่ แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากเดินทางไปเมืองอื่นที่ไม่ไกลมาก แล้วก็ต้องการความประหยัดพี่ ๆ ก็แนะนำ Coach เลยค่าาา


วิธีการซื้อตั๋ว

  • น้อง ๆ สามารถซื้อบัตร Coachcard ได้หลายวิธี ทั้ง

✔️ ซื้อที่หน้าสถานี

✔️ ซื้อกับคนขับโดยตรง

✔️ ซื้อตามที่ทำการไปรษณีย์เกือบทุกแห่ง

✔️ ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย

✔️ ซื้อผ่านทางออนไลน์ (ซื้อ Coachcard จาก National Express จะได้รับส่วนลดสูงสุด 30% )

  • ใช้ได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และบัตรเดบิต

  • ไม่รับ Oyster Card



7. Taxi/Cab (รถแท็กซี่)


ขอบคุณรูปภาพจาก vkguy


รถแท็กซี่ในอังกฤษสามารถหาได้ง่ายมากโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ซึ่งรถแท็กซี่ที่เห็นได้บ่อยที่สุดและถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของที่นี่ คือ "Black Cabs"


Black Cabs เป็นบริการรถแท็กซี่ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดใน London และยังเป็น Taxi ประเภทเดียวใน London ที่เราสามารถโบกเรียกได้ หรือถ้าใครไม่สะดวกโบกรถเอง ก็สามารถดาวน์โหลดแอป Gett เพื่อเรียก Black Cabs ได้เลยค่า! และถ้าน้อง ๆ ไม่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ทั่วไป การเรียกรถผ่านแอปอย่าง Uber หรือ Bolt ก็เป็นทางเลือกที่คนอังกฤษใช้กันค่ะ แต่เนื่องจากว่าค่าโดยสารค่อนข้างสูงทำให้คนนิยมใช้บริการ Tram หรือ Tube มากกว่า



* เกร็ดความรู้ *


รถ Taxi ในอังกฤษแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

  1. Hackney carriage vehicles หรือ Black Cabs ที่พี่ ๆ ได้แนะนำไปข้างต้น

  2. Private hire vehicles หรือ Minicabs เป็นรถ Taxi ที่ต้องจองผ่านคนขับโดยตรงหรือจองผ่านเว็บไซต์ minicabs ไม่สามารถโบกเรียกได้เหมือน Black Cabs ค่ะ รถ Minicabs ส่วนใหญ่เป็นรถเก๋งทั่วไปสีอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สีขาว แต่จะมีจุดสังเกต คือ มีป้ายทะเบียนสีเขียวด้านหลัง และไม่มีป้ายบนหลังคาค่ะ

  3. Executive Private hire vehicles เป็นรถ Taxi ที่ต้องจองผ่านบริษัทรถรับส่ง ไม่สามารถโบกเรียกได้ ถ้าให้พูดง่าย ๆ ก็คือ Taxi ประเภทนี้อัพเกรดมาจาก Minicabs ค่ะ รถที่ใช้จะเป็นรถหรูราคาแพง คนขับแต่งตัวเนี้ยบ ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะแพงที่สุดใน 3 ประเภทนี้เลย ใครที่อยากลองเปิดประสบการณ์ผู้บริหารก็สามารถมาใช้บริการ Executive Private hire vehicles ได้นะคะ :)


 

จบกันไปแล้ว สำหรับวิธีการเดินทางในอังกฤษทั้งหมด 7 รูปแบบ หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ น้อง ๆ ก็คงจะได้เห็นภาพว่าที่อังกฤษเดินทางยังไงได้บ้าง และถ้าน้อง ๆ คนไหนอยู่ที่ London และอยากรู้เทคนิควิธีประหยัดค่าเดินทาง ว่าเดินทางใน London ยังไงให้คุ้มค่าที่สุด ก็สามารถอ่าน Blog ของพี่ ๆ BACCOM เพิ่มเติมได้เลยค่า How to ประหยัดค่าเดินทางในลอนดอน


และสำหรับใครที่ต้องการบริการรถแท็กซี่ที่ไว้ใจได้ เพื่อรับส่งระหว่างสนามบินและที่พัก หรือกำลังมองหาที่พักในอังกฤษ สามารถติดต่อพี่ ๆ BACCOM มาได้เลยนะคะ พี่ ๆ พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับที่พักที่อังกฤษเลยค่าา :DD



🏡 เรื่องที่พักในอังกฤษให้ BACCOM ดูแล 🇬🇧 ครบทุกบริการที่ต้องการ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💕


💚 LINE ID : @baccomuk

💙 Facebook : BACCOM UK

❤️ Youtube: BACCOM UK

📩 Email: hello@baccom.co.uk

☎️ UK Call : +44 7400 902 392

☎️ TH Call : +66 62 656 9422


🔗 ดูบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่

bottom of page