น้อง ๆ คนไหนมีแพลนว่าจะมาเที่ยวหรือย้ายมาอยู่ที่อังกฤษบ้าง ยกมือขึ้น!! ต้องเกริ่นก่อนว่าการเดินทางในอังกฤษเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากกกกกก เพราะการคมนาคมของที่นี่เข้าถึงทุกที่ในประเทศเลยค่ะ ไม่ว่าน้อง ๆ จะได้ที่พักในเขตไหนก็สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายสุด ๆ
วันนี้พี่ ๆ BACCOM ก็เลยจะมาแนะนำขนส่งสาธารณะที่คนอังกฤษนิยมใช้กัน 7 รูปแบบ รวมถึงวิธีการซื้อตั๋วของขนส่งรูปแบบต่าง ๆ จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาเริ่มกันเลยค่าาา
1. Underground / Tube (รถไฟใต้ดิน)
ขอบคุณรูปภาพจาก britannica
Tube หรือ รถไฟใต้ดินของอังกฤษ ถือว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นขนส่งสาธารณะที่คน London นิยมมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เพราะมีด้วยกันทั้งหมด 11 สายและมีสถานีมากกว่า 270 สถานีทั่ว London ทำให้น้อง ๆ สามารถเดินทางไปยังย่านต่าง ๆ ได้ง่ายมาก แถมบางสายให้บริการ 24 ชั่วโมงเลย! เหตุผลอีกข้อที่ทำให้คนนิยมก็คือ Tube มีความรวดเร็วมาก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เช่น เราสามารถนั่ง Tube จาก West London ไป East London ได้เร็วมาก ๆ แค่ 30-45 นาทีเท่านั้น! ถ้าน้อง ๆ คนไหนชอบความรวดเร็วและความสะดวกสบาย Tube ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่า
วิธีการซื้อตั๋ว
น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋ว Tube ได้ที่เครื่องขายตั๋วหน้าสถานี สามารถใช้ได้ทั้งเงินสด บัตรเดบิตและบัตรเครดิต
พี่ ๆ แนะนำว่าถ้าน้อง ๆ ต้องเดินทางด้วย Tube เป็นประจำแนะนำให้สมัครบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card แล้วจ่ายเงินผ่าน card เหล่านี้จะสะดวกที่สุดค่ะ
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ
BACCOM TIPS
ราคาของตั๋วรถไฟใต้ดินจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่เดินทาง และเวลาที่เลือกเดินทางด้วยนะคะ ที่อังกฤษจะมีชั่วโมงเร่งด่วนหรือที่เรียกกันว่า Peak time ซึ่งถ้าน้อง ๆ ซื้อตั๋วรถไฟในช่วง Peak time ก็จะมีราคาแพงกว่าช่วงเวลาอื่นด้วย! ดังนั้นหากน้อง ๆ วางแผนเวลาเดินทางดี ๆ ก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าเดินไปได้เยอะเลยค่า
* เกร็ดความรู้ *
Q: พี่ ๆ คะ หนูเคยได้ยินบางคนก็เรียกรถไฟใต้ดินว่า Tube บางคนก็เรียกว่า Underground แล้วมันต่างกันยังไงหรอคะ?
A: เหมือนกันเลยค่ะ London Underground คือชื่อที่เป็นทางการ ส่วนคนอังกฤษหรือชาว London มักนิยมเรียกเจ้ารถไฟใต้ดินนี้ด้วยชื่อเล่นว่า Tube ค่ะ เพราะรถไฟใต้ดินมีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินเหมือนท่อยาว ๆ นั่นเอง
2. Tram (รถราง)
ขอบคุณรูปภาพจาก tautonline
จริง ๆ ประเทศไทยเองก็มีรถรางให้บริการนะคะ แต่พี่เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับขนส่งชนิดนี้เท่าไหร่ เพราะ Tram ในประเทศไทยเปิดให้บริการครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งน้อง ๆ หลายคนอาจจะเกิดไม่ทัน ;p (พี่ ๆ เองก็เกิดไม่ทันค่ะ ฮ่า ๆ ) แต่ว่า Tram ที่อังกฤษยังเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบันและก็เป็นที่นิยมกันด้วยนะคะ วันนี้พี่ ๆ BACCOM ก็เลยจะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้ายานพาหนะชนิดนี้กัน!
Tram หรือ รถราง เป็นรถที่วิ่งอยู่บนรางคล้ายกับรถไฟแต่จะมีขนาดที่สั้นและน้ำหนักเบากว่า ถึงแม้ว่า Tube หรือรถไฟใต้ดินในอังกฤษจะสะดวกสบายและรวดเร็วมาก แต่ถ้าใครมองหาการเดินทางที่ประหยัดกว่าก็ต้อง Tram เลยค่า ซึ่ง Tram จะมีอยู่เพียงไม่กี่เมืองในประเทศอังกฤษเท่านั้น ได้แก่ London, Manchester, Nottingham, Sheffield, Newcastle-Sunderland, Blackpool, Edinburgh และ Birmingham–Wolverhampton ค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าน้อง ๆ มีโอกาสไปเมืองเหล่านี้ก็ลองนั่ง Tram สักครั้งก่อนกลับไทยกันนะคะ :DD
วิธีการซื้อตั๋ว
น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่
✔️ เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติที่หน้าสถานีซึ่งรับทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต และเงินสด (ยกเว้นใน London ไม่รับเงินสดนะคะ)
✔️ ช่องทางออนไลน์สำหรับซื้อตั๋วล่วงหน้า
สำหรับน้อง ๆ ที่อยู่ London ต้องพกบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ไว้สำหรับซื้อตั๋วด้วยนะคะ :DD
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ
3. Rail/Train (รถไฟ)
ขอบคุณรูปภาพจาก 123rf
ถ้าพูดถึงขนส่งสาธารณะที่มีสถานีครอบคลุมทั่วเกาะอังกฤษ จะขาด Rail ไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะ Rail เป็นเครือข่ายรถไฟที่ใหญ่มากกก! สามารถเชื่อมเมืองต่าง ๆ ในเกาะให้ถึงกันได้ โดยน้อง ๆ สามารถนั่ง Rail เพื่อเดินทางในเมืองหรือข้ามเมืองก็ได้ค่ะ แถมยังรวดเร็วมากกกกกอีกด้วย ขนาดที่ว่าสามารถเดินทางจาก London ไปยัง Edinburgh เมืองหลวงของ Scotland ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น! ลองเทียบกับที่ไทยง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ กับการที่น้อง ๆ สามารถนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ได้ภายในแค่ไม่ถึง 4 ชั่วโมงค่ะ ;D นอกจากจะรวดเร็วแล้ว Rail ยังนั่งสบายสุด ๆ เพราะมีพื้นที่ให้ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย หาของกิน เข้าห้องน้ำ หรือนั่งทำงานได้ด้วย ไม่ใช่แค่นี้นะคะ Rail ยังถือเป็นขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและตรงเวลามากด้วยน้า สามารถวางแผนท่องเที่ยวได้สบายเลย
วิธีการซื้อตั๋ว
น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วเดินทางได้ที่
✔️ หน้าสถานีรถไฟ ผ่านเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติและห้องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งรับทั้งเงินสด (ยกเว้นบางสถานีใน London) บัตรเดบิต และบัตรเครดิตได้เลยค่ะ
✔️ ทางออนไลน์จากทุกบริษัทผ่านเว็บไซต์ national rail และ the train line
ถ้าน้อง ๆ เดินทางใน London ด้วย Rail บ่อย ๆ แนะนำว่าควรพกบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ด้วยนะคะ เพราะบางสถานีใน London ไม่รับเงินสดค่ะ
สำหรับน้อง ๆ ที่เดินทางบ่อยและอยากเดินทางด้วย Rail ในราคาถูก แนะนำให้ซื้อบัตร Railcard ไว้นะคะ จะช่วยประหยัดค่าเดินได้มาก ๆ เลยค่ะ
“แผนที่เส้นทางวิ่งของรถไฟสายต่าง ๆ ในอังกฤษ”
ขอบคุณรูปภาพจาก thetrainline
4. Docklands Light Railway (DLR)
ขอบคุณรูปภาพจาก city-guide.london
Docklands Light Railway หรือที่คนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า DLR เป็นรถไฟไร้คนขับที่ให้บริการเฉพาะในพื้นที่ East และ South-East London เท่านั้นค่ะ ถ้ามองเผิน ๆ DLR จะมีความคล้ายกับ Tube มาก แถมยังมีสถานีที่เชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนสายไปขึ้น Tube ได้อีกด้วย แต่ DLR จะแตกต่างจาก Tube เล็กน้อยค่ะ ตรงที่ DLR จะมีสถานีที่ให้บริการน้อยกว่า แต่ว่ามีรถที่ใหม่กว่า สถานีที่ใหญ่กว่า และทันสมัยกว่า Tube ค่าาา
วิธีการซื้อตั๋ว
เหมือนกับการซื้อตั๋ว Tube เลยค่ะ คือ น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วรถไฟ DLR ที่เครื่องขายตั๋วหน้าสถานีซึ่งรับทั้งเงินสด บัตรเดบิต และบัตรเครดิต
ถ้าน้อง ๆ ต้องเดินทางด้วย DLR เป็นประจำแนะนำให้น้อง ๆ สมัครบัตรเติมเงิน Oyster card หรือ Contactless card ด้วยจะสะดวกที่สุดค่ะ
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ
5. Bus (รถโดยสายประจำทาง)
ขอบคุณรูปภาพจาก londonblog.tfl.gov.uk
เมื่อพูดถึงขนส่งสาธารณะแล้วแน่นอนว่าจะขาด Bus หรือรถโดยสารประจำทางไปไม่ได้เลย Bus ที่นี่มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับรถเมล์บ้านเรา แต่จะมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของที่อังกฤษเลย คือ รถสีแดงอันโดดเด่นและมีสองชั้น!! ทุกคนสามารถนั่งรถเพลิน ๆ พร้อมได้ชมวิวเมืองไปด้วยยย และแถม Bus ที่นี่ยังมีพื้นที่สำหรับรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นพิเศษด้วยนะคะ ถ้ามีผู้โดยสารที่ใช้รถเข็นต้องการขึ้น Bus คนขับก็จะเปิดระบบต่อพื้นให้เข็นรถขึ้น Bus ได้อย่างสะดวกเลยค่ะ ดีงามสุด ๆ
การเดินทางด้วย Bus ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ประหยัดมากกกก เพราะที่นี่เขามีนโยบาย Hopper fare ให้น้อง ๆ สามารถเปลี่ยนสาย Bus กี่ครั้งก็ได้ใน 1 ชั่วโมงแต่จ่ายแค่ 1.75 ปอนด์ด้วยน้า ถ้าวางแผนการเดินทางดี ๆ จะช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมาก ๆ เลยค่า
วิธีการซื้อตั๋ว
น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรซึ่งจะตั้งอยู่ที่ สถานี Tube, DLR, London Overground, Elizabeth line และ National Rail
เนื่องจาก Bus ที่นี่ไม่รับเงินสด ดังนั้นน้อง ๆ ควรพกบัตร Oyster card หรือบัตร Contactless card ด้วยนะคะ
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา ถ้าซื้อด้วย 18+ Student Oyster Photocard จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ
6. Coach (รถโคช)
ขอบคุณรูปภาพจาก pelicanyutong
Coach เป็นรถประจำทางที่เดินทางในระยะทางไกลกว่า Bus ซึ่งถ้าจะให้เปรียบ Coach เป็นขนส่งในบ้านเรา ก็จะเปรียบได้กับรถทัวร์ค่า Coach ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการเดินทางข้ามเมืองนอกเหนือจาก Rail เลยค่ะ ข้อดีของ Coach เมื่อเทียบกับ Rail ก็คือ มีราคาที่ถูกกว่า มีจุดหมายปลายทางที่เยอะกว่าและครอบคลุมกว่า แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อย คือ ถ้าน้อง ๆ เดินทางไกล ๆ อาจจะนั่งไม่ค่อยสบายเท่ากับ Rail เท่าไหร่ แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากเดินทางไปเมืองอื่นที่ไม่ไกลมาก แล้วก็ต้องการความประหยัดพี่ ๆ ก็แนะนำ Coach เลยค่าาา
วิธีการซื้อตั๋ว
น้อง ๆ สามารถซื้อบัตร Coachcard ได้หลายวิธี ทั้ง
✔️ ซื้อที่หน้าสถานี
✔️ ซื้อกับคนขับโดยตรง
✔️ ซื้อตามที่ทำการไปรษณีย์เกือบทุกแห่ง
✔️ ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย
✔️ ซื้อผ่านทางออนไลน์ (ซื้อ Coachcard จาก National Express จะได้รับส่วนลดสูงสุด 30% )
ใช้ได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และบัตรเดบิต
ไม่รับ Oyster Card
7. Taxi/Cab (รถแท็กซี่)
ขอบคุณรูปภาพจาก vkguy
รถแท็กซี่ในอังกฤษสามารถหาได้ง่ายมากโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ซึ่งรถแท็กซี่ที่เห็นได้บ่อยที่สุดและถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของที่นี่ คือ "Black Cabs"
Black Cabs เป็นบริการรถแท็กซี่ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดใน London และยังเป็น Taxi ประเภทเดียวใน London ที่เราสามารถโบกเรียกได้ หรือถ้าใครไม่สะดวกโบกรถเอง ก็สามารถดาวน์โหลดแอป Gett เพื่อเรียก Black Cabs ได้เลยค่า! และถ้าน้อง ๆ ไม่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ทั่วไป การเรียกรถผ่านแอปอย่าง Uber หรือ Bolt ก็เป็นทางเลือกที่คนอังกฤษใช้กันค่ะ แต่เนื่องจากว่าค่าโดยสารค่อนข้างสูงทำให้คนนิยมใช้บริการ Tram หรือ Tube มากกว่า
* เกร็ดความรู้ *
รถ Taxi ในอังกฤษแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
Hackney carriage vehicles หรือ Black Cabs ที่พี่ ๆ ได้แนะนำไปข้างต้น
Private hire vehicles หรือ Minicabs เป็นรถ Taxi ที่ต้องจองผ่านคนขับโดยตรงหรือจองผ่านเว็บไซต์ minicabs ไม่สามารถโบกเรียกได้เหมือน Black Cabs ค่ะ รถ Minicabs ส่วนใหญ่เป็นรถเก๋งทั่วไปสีอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สีขาว แต่จะมีจุดสังเกต คือ มีป้ายทะเบียนสีเขียวด้านหลัง และไม่มีป้ายบนหลังคาค่ะ
Executive Private hire vehicles เป็นรถ Taxi ที่ต้องจองผ่านบริษัทรถรับส่ง ไม่สามารถโบกเรียกได้ ถ้าให้พูดง่าย ๆ ก็คือ Taxi ประเภทนี้อัพเกรดมาจาก Minicabs ค่ะ รถที่ใช้จะเป็นรถหรูราคาแพง คนขับแต่งตัวเนี้ยบ ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะแพงที่สุดใน 3 ประเภทนี้เลย ใครที่อยากลองเปิดประสบการณ์ผู้บริหารก็สามารถมาใช้บริการ Executive Private hire vehicles ได้นะคะ :)
จบกันไปแล้ว สำหรับวิธีการเดินทางในอังกฤษทั้งหมด 7 รูปแบบ หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ น้อง ๆ ก็คงจะได้เห็นภาพว่าที่อังกฤษเดินทางยังไงได้บ้าง และถ้าน้อง ๆ คนไหนอยู่ที่ London และอยากรู้เทคนิควิธีประหยัดค่าเดินทาง ว่าเดินทางใน London ยังไงให้คุ้มค่าที่สุด ก็สามารถอ่าน Blog ของพี่ ๆ BACCOM เพิ่มเติมได้เลยค่า How to ประหยัดค่าเดินทางในลอนดอน
และสำหรับใครที่ต้องการบริการรถแท็กซี่ที่ไว้ใจได้ เพื่อรับส่งระหว่างสนามบินและที่พัก หรือกำลังมองหาที่พักในอังกฤษ สามารถติดต่อพี่ ๆ BACCOM มาได้เลยนะคะ พี่ ๆ พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับที่พักที่อังกฤษเลยค่าา :DD
🏡 เรื่องที่พักในอังกฤษให้ BACCOM ดูแล 🇬🇧 ครบทุกบริการที่ต้องการ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💕
💚 LINE ID : @baccomuk
💙 Facebook : BACCOM UK
❤️ Youtube: BACCOM UK
📩 Email: hello@baccom.co.uk
☎️ UK Call : +44 7400 902 392
☎️ TH Call : +66 62 656 9422
🔗 ดูบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่
Website : www.baccom.co.uk