เนื่องจากที่พักในอังกฤษค่อนข้างมีหลากหลาย และมีคำศัพท์ที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย การรู้จักประเภทของที่พักทั้งหมดจะทำให้เรา ตัดสินใจเลือกที่พักได้ดีมากขึ้น
เรามีคำแนะนำเกี่ยวประเภทที่พักต่างๆมาให้ พร้อมข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาถามอากู๋ อ่านเป็น สิบๆ เว็บ สิบๆ กระทู้ให้สับสนวุ่นวาย เพื่อจะได้เป็นแนวทางหาที่พักที่เหมาะสมกับตัวเอง รวมถึงวิธีการติดต่อ Agent หรือติดต่อที่พักนั้นๆด้วยตัวเองต่อไปได้ด้วย
หลักๆ ที่พักก็จะแบ่งเป็น 3 แบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1. Student accommodation สำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ 2. Shared Flat ทั้งที่แบบอยู่ร่วมกับ Landlord หรือคนอื่นๆ และ 3. Apartment
STUDENT ACCOMMODATION
แบบแรกคือ Halls of Residence หรือที่เรียกง่ายๆว่า Student Accommodation ที่พักแบบนี้จะมี 2 แบบ คือ
1. หอพักของมหาวิทยาลัย (University Halls of residence) หอนี้จะถูกดูแลและเป็นเจ้าของโดยมหาวิทยาลัย ส่วนมากมักจะให้สิทธิเฉพาะนักเรียนปริญญาตรี ปี 1 เท่านั้น แต่ในบางมหาวิทยาลัย อาจจะมีโควต้าบางส่วนให้กับนักเรียน ป.โทบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็อาจจะต้องแย่งชิงกันซักหน่อย โดยหอประเภทนี้ ในบางมหาวิทยาลัย จะถูกแบ่งออกเป็นอีก 2 แบบย่อยๆ อีกคือ → Halls of Residence: มีอาหารมื้อเช้าและเย็นให้ ในวันจันทร์ถึงศุกร์ และมี brunch ในวันเสาร์และอาทิตย์ เช่น ของ UCL → Student Houses: ต้องใช้ครัวและของใช้ในครัวร่วมกันเพื่อทำอาหาร หรือบางที่อาจจะต้องแชร์ห้องน้ำด้วย
ข้อดี + ราคากลางๆ ถูกกว่าหอนักเรียนเอกชนเล็กน้อย + ค่าเช่ารวมทุกอย่างแล้ว น้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ต + ปลอดภัย เพราะจำกัดเฉพาะนักเรียนเช่าเท่านั้น + มีคนดูแล มีระบบรักษาความปลอดภัย จะต้องลงทะเบียนพาคนแปลกหน้าเข้าตึกด้วย + มักจะอยู่ในโลเคชั่นที่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก + ได้เจอเพื่อนๆในมหาลัยเดียวกัน + มักมีกิจกรรมจัดที่บริเวณส่วนกลางในวันสำคัญต่างๆ + บางที่จะมีบริการทำความสะอาดห้องน้ำ และซักผ้าปูให้ด้วย
ข้อเสีย - สำหรับคนที่อยากรู้จักคนนอกมหาลัย ที่พักแบบนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ - บางมหาลัยจะให้เราเลือก 3–4 ที่ แล้ว random ให้เรา เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะไม่ได้อยู่ในที่ๆอยากอยู่จริงๆ - บางที่ต้องรอผลนานมากว่าได้หรือไม่ได้ที่พักที่จองไป ทำให้จัดการและเตรียมตัวลำบาก - ไม่สามารถกำหนด หรือต่อรองวันย้ายเข้าย้ายออกเองได้ - ระยะเวลาสัญญา 49 / 51 weeks เท่านั้น หากคอร์สที่เรียนนานเกินระยะเวลานี้ ต้องหาที่อยู่ใหม่หลังจากหมดสัญญา
2. หอพักของนักเรียนเอกชน (Private Student Accommodation / Private Sector Halls of Residence) คล้ายกับหอพักของมหาลัยแต่เป็นเจ้าของโดยบริษัทเอกชน ให้สิทธิเฉพาะนักเรียนในการเช่าอยู่เท่านั้น แต่ไม่จำกัดมหาวิทยาลัย และไม่จำกัดชั้นปี ซึ่งค่อนข้างเป็นที่นิยมที่สุด เนื่องจากสะดวกและเชื่อถือได้แน่นอน
ข้อดี + ค่าเช่ารวมทุกอย่างแล้ว น้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ต + มีห้องหลายแบบ ทั้งแบบแชร์หรือไม่แชร์ครัวและห้องน้ำ ขนาดห้องหลากหลาย + ปลอดภัย ให้เฉพาะนักเรียนเช่าเท่านั้น + มักจะอยู่ในโลเคชั่นที่ดี ไม่ไกลจากมหาลัย + ได้เจอเพื่อนๆนอกมหาลัย + มักมีกิจกรรมจัดที่บริเวณส่วนกลางในวันสำคัญต่างๆ + มี Facilities ส่วนกลาง มีโต๊ะพูล ห้องอ่านหนังสือ หรือบางที่มียิมด้วย + มีคนดูแล มีระบบรักษาความปลอดภัย จะต้องลงทะเบียนพาคนแปลกหน้าเข้าตึกด้วย + มีคนรับของที่เคาร์เตอร์ให้
ข้อเสีย - ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับที่พักแบบอื่นๆ แต่แลกกับความสะดวกสบายที่มากกว่า - อาจต้องเจอความวุ่นวายเสียงดัง เพราะบางทีจะชอบมีเดอะแก๊งมาปาร์ตี้ตอนกลางคืน - บางที่จะให้จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเลย 1 ปี โดยไม่มีการแบ่งจ่าย (หากแบ่งจ่าย ส่วนมากจะต้องมีคนค้ำซึ่งต้องเป็นคนที่มีที่อยู่อาศัยที่นู่นถาวร จะเป็นพ่อแม่เราที่อยู่ไทยไม่ได้) - ไม่สามารถกำหนด หรือต่อรองวันย้ายเข้าย้ายออกเองได้ - สัญญา 49 / 51 weeks เท่านั้น หากคอร์สที่เรียนนานเกินระยะเวลานี้ ต้องหาที่อยู่ใหม่หลังจากหมดสัญญา - บางที่อาจมีจำกัดเวลารับของ หรือไม่สามารถเอาของวันเสาร์อาทิตย์ได้ ก็อาจจะลำบากตรงนี้นิดนึง
SHARED FLAT
แบบที่ 2 คือ Shared House / Shared flat เป็นการปล่อยเช่าบ้านหรือ Flat ที่มีหลายห้องนอน ซึ่งลักษณะการปล่อยเช่าจะมี 2 แบบดังนี้
1. Room to Rent
การปล่อยเช่าแยกเป็นห้องๆ แต่ละห้องก็แต่ละสัญญาแยกกัน โดยจะมีทั้งแบบที่อยู่ร่วมกันกับ Landlord (Live in Landlord) และ แบบที่อยู่ร่วมกับผู้เช่ารายอื่นๆ (Live out Landlord)
→ Room to rent แบบ Live in Landlord ก็จะคล้ายๆการอยู่กับ Host หรือ การอยู่แบบ Airbnb ที่เจ้าของมีห้องเหลือแล้วเอามาปล่อยเช่า ซึ่งเจ้าของบ้านบางทีก็เป็นได้ทั้งคนต่างชาติหรือพี่ๆคนไทยที่อยู่อังกฤษ
ข้อดี + สภาพบ้านจะค่อนข้างดี เพราะว่าเป็นบ้านของเค้าและเค้าอยู่เอง + อุ่นใจเวลาเกิดปัญหาอะไร บอกเจ้าของบ้านได้ง่าย เค้าจะดูแลให้ได้รวดเร็ว + มีพื้นที่กว้าง รู้สึกสดชื่น อยู่สบายกว่า มีความเป็นบ้าน มีห้องนั่งเล่นให้ใช้ได้ + ส่วนมากพื้นที่ส่วนกลาง เจ้าของจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ เราก็จะไม่เหนื่อยมาก แค่ทำส่วนของเราให้ดีก็พอ หรือบางที่เจ้าของใจดีมากๆก็จะให้แม่บ้านมาทำห้องเราให้ด้วยนะ + พูดคุยและต่อรองสัญญาได้ง่าย + ไม่ต้องโดนบังคับให้จ่ายล่วงหน้าทั้งปี ต่อรองได้ตามความเหมาะสม + ราคาเหมาะสม ไม่แพง และส่วนมากมักจะรวมค่าน้ำ ค่าไฟ อินเตอร์เนท และภาษีบ้านแล้ว
ข้อเสีย - ส่วนมากจะอยู่ย่านที่พักอาศัย ซึ่งอาจจะไกลจากเมืองออกไปเล็กน้อย - ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะยังไงก็ยังเหมือนอาศัยบ้านเค้าอยู่ ก็จะต้องมีความเกรงใจเจ้าของ - เจ้าของบางคนก็นิสัยแตกต่างกันไป ก็แล้วแต่ว่าจะเจอที่เข้ากันได้หรือไม่ได้ - ไม่ได้มีบรรยากาศการอยู่กับเพื่อน หรือชวนเพื่อนมาแฮ๊งเอ้าท์
→ Room to Rent แบบ Live out Landlord
เราก็จะไปอยู่รวมกับผู้เช่ารายอื่นๆ โดยไม่มี Landlord อยู่ร่วมในบ้านด้วย
ข้อดี + จะคล้ายๆหอพักนักเรียนประเภท Ensuite แต่ราคาถูกกว่า และได้พื้นที่เยอะกว่า + ไม่ต้องยุ่งยาก หรือกังวลในเรื่องสัญญาเช่า เพราะเซ็นต์สัญญาแยกเฉพาะห้องนอนและส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเท่านั้น + ส่วนมากเจ้าของบ้านจะจัดการเรื่องน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตแล้ว เราแค่จ่ายเงินตามที่เราใช้งาน ซึ่งอาจเป็นการหารค่าใช้จ่ายกับผู้เช่ารายอื่นๆ + เจรจาต่อรองระยะเวลาเช่ากับเจ้าของห้องได้ตามสะดวก
ข้อเสีย - ต้องลุ้นว่าแฟลทเมทจะเป็นยังไง เพราะเจ้าของเป็นคนเลือกหรือตัดสินใจเรื่องคนที่มาเช่าห้องอื่นๆในแฟลต - บางที่เจ้าของอาจจะให้จัดการเรื่องน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ต และภาษีบ้านเอง
2. Whole Flat to Rent
การที่เจ้าของปล่อยทั้ง Flat เลย มีสัญญาฉบับเดียว โดยที่ผู้เช่าจะต้องทำสัญญาร่วมกัน (Joint tenancy) ถ้าในลอนดอนส่วนมากมักจะเป็นตึกเก่า แต่ถ้าเมืองอื่นๆ จะมีตึกใหม่ๆ ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
ข้อดี + สามารถเลือกผู้เช่าที่มาอยู่ด้วยกันได้ + ราคาถูกกว่าหอพักนักเรียน ได้พื้นที่เยอะกว่า แชร์ครัวกับคนรู้จัก เหมือนอยู่กับเพื่อน + สามารถตรวจสอบ เลือกใช้บริษัทค่าไฟ / อินเตอร์เน็ทตามต้องการได้ + เจรจาต่อรองระยะเวลาเช่ากับเจ้าของ Flat ได้ตามสะดวก
ข้อเสีย - เวลาเกิดอะไรขึ้น ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนที่เซ็นต์สัญญาด้วยกัน - อาจจะมีปัญหาถ้าหากเพื่อนที่เช่าอยู่ด้วยกัน อยากจะยกเลิกสัญญาก่อน จะต้องปวดหัวเรื่องหาคนมาแทน และวุ่นวายเรื่องเอกสาร - ต้องจัดการเรื่องน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ท ภาษีบ้านต่างๆเอง
Apartment
แบบสุดท้ายก็คือ Apartment ที่พักแบบนี้จะอารมณ์เหมือนคอนโดที่เมืองไทย มีห้องหลายประเภท สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน / 3 ห้องนอน และเช่าภายใต้สัญญาชื่อ 1 คน หรือขอทำสัญญาร่วมกันได้ (Joint Tenancy)
ข้อดีของการเช่าห้องชุดทั้งห้อง + ส่วนใหญ่เป็นตึกที่ค่อนข้างใหม่กว่า Shared accommodation + สะดวกสบาย สวยกว่า ดูดีกว่า + หลาย ๆ ที่ส่วนมาก มี facilities ดี คล้าย ๆ หอพักนักเรียนเอกชน (Private accommodation) + สามารถตรวจสอบ เลือกใช้บริษัทค่าไฟ / อินเตอร์เน็ทตามต้องการได้ + เจรจาต่อรองระยะเวลาเช่ากับเจ้าของได้ตามความสะดวก
ข้อเสียของการเช่าห้องชุดทั้งห้อง - ตึกใหม่ พร้อมกับ facilities ดี ๆ จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่จะมีห้องหลากหลายราคาและมีที่ราคาไม่แพงด้วย - สัญญาฉบับเดียว กรณีเช่า 2–3 ห้องนอน อาจจะมีปัญหาถ้าหากเพื่อนที่เช่าอยู่ด้วยกัน อยากจะยกเลิกสัญญาก่อน จะต้องปวดหัวเรื่องหาคนมาแทน และวุ่นวายเรื่องเอกสาร - ต้องจัดการเรื่องน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ท ภาษีบ้านต่างๆเอง
ทั้งหมดนี้คือรูปแบบที่พักในอังกฤษทั้งหมด โดยอิงจากลอนดอนเป็นหลัก ถ้าของเมืองอื่นๆที่ไม่ใช่ลอนดอนก็จะคล้ายๆกัน แต่อาจจะไม่ได้มีห้องแบบคอนโดให้เลือกสักเท่าไหร่ ยังไงก็ขอให้ทุกคนเลือกที่พักประเภทที่เหมาะกับตัวเองให้เจอ เพราะว่าแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะชอบไม่เหมือนกัน หลังจากเลือกประเภทที่พักที่ถูกใจได้แล้ว จะต้องทำยังไงต่อบ้าง มีรายละเอียดอะไรที่ต้องดูต้องรู้ คอยติดตามกันนะคะ
หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติม หรือต้องการให้ทางทีม BACCOM ตรวจสอบและแนะนำที่พักที่เหมาะสมกับน้องๆ สามารถติดต่อมาได้เลยนะคะ 😊
🏡 เรื่องที่พักในอังกฤษให้ BACCOM ดูแล 🇬🇧 ครบทุกบริการที่ต้องการ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💕
💚 LINE ID : @baccomuk
💙 Facebook : BACCOM UK
❤️ Youtube: BACCOM UK
📩 Email: hello@baccom.co.uk
☎️ UK Call : +44 7400 902 392
☎️ TH Call : +66 62 656 9422
🔗 ดูบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่
Website : www.baccom.co.uk